ในการพิจารณากฎหมายแต่งงานเพศเดียวกันในสภาผู้แทนราษฎรชุดที่แล้ว ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ถูกเสนอประกบคู่กับร่าง พ.
และมีส่วนสำคัญเคาะเลือกชื่อผู้ว่าฯ แบงก์ชาติคนใหม่
คำบรรยายภาพ, คู่รักเพศเดียวกันถูกเฆี่ยนตีอย่างเปิดเผยในจังหวัดอาเจะห์ ซึ่งเป็นจังหวัดเดียวที่บังคับใช้กฎหมายชารีอะห์ในอินโดนีเซีย
“ไม่ได้คิดแยกประเทศ” เสียงจากศูนย์การเรียนรู้มิตตาเย๊ะฯ หลังถูกสั่งปิดจากกระแสต้านร้องเพลงชาติเมียนมา
เมื่อใดที่การเมืองกับตำรวจตัดไม่ขาด เมื่อนั้นแรงจูงใจในการพัฒนาองค์กรอาจไม่มากเท่าการวิ่งเต้นตำแหน่ง
“ด้วยความที่ครอบครัวในสังคมไทยมีความยืดหยุ่นสูง ในครอบครัวที่มีลูกหลายคน พี่น้องที่เป็นผู้ชายแต่มีจริตแบบผู้หญิง หากไม่แต่งงานออกเรือน เขาก็ยัง [อยู่บ้าน ทำงาน] ช่วยเหลือพ่อแม่ไป แต่หากเป็นกะเทยและแต่งงานกับผู้หญิงอื่น ก็ย้ายไปเป็นแรงงานให้กับบ้านพ่อตาแม่ยาย ก็คือยังต้องคงทำหน้าที่ของผู้ชายอยู่ แต่ก็พบว่าผู้ชายที่มีจริตเป็นผู้หญิงบางคนก็มีแนวโน้มที่จะเป็นโสด อาจจะมีความสัมพันธ์กับชายคนอื่นในหมู่บ้านแบบลับ ๆ สนุกสนานกันไป แต่ไม่ได้คิดจะเปิดเผยเป็นคู่ผัวเมียแบบที่เราเข้าใจในยุคปัจจุบัน”
ด้วยเหตุนี้ พ่อแม่ที่เติบโตมาในสมัยยุคจอมพล ป. จึงมีความคิดฝังหัวว่าผู้ชายกับผู้หญิงควรมีหน้าที่อะไร “ส่วนผู้ที่เกิดมาเป็นเพศกึ่ง ๆ กลาง ๆ จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม สังคมจะไม่ยอมรับและดูถูกเหยียดหยาม ซึ่งมันเป็นผลพวงจากวิธีคิดแบบชายเป็นใหญ่ของจอมพล ป.
อีกความแตกต่างของร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมของภาคประชาชน คือ การแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งฯ (ป.พ.พ.) ที่เกี่ยวกับบิดา มารดา และบุตร ที่ร่างของภาคประชาชนเสนอว่า ให้เปลี่ยนถ้อยคำที่ครอบคลุมผู้มีความหลากหลายทางเพศ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายสมรสเท่าเทียม ขณะที่ร่างกฎหมายของรัฐบาลและพรรคก้าวไกล แก้ไขถ้อยคำในกฎหมาย ป.พ.พ. เพียงบางส่วน
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
การจัดการทรัพย์สินระหว่างคู่สมรสที่ทำมาหาได้ร่วมกันหรือดูแลผลประโยชน์จากทรัพย์สิน
คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย
คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย
กองกำลังพันธมิตรภราดรภาพที่กำลังสู้รบกับรัฐบาลทหารเมียนมาคือใคร ?
แนะนำติชม แจ้งปัญหาการใช้งานร่วมงานกับเรา